วันที่ 22 เมษายน 2568 ชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์รัฐวิสาหกิจไทย จำกัด (ชสร.)ได้จัดการประชุมระดมความคิดเห็นในหัวข้อ “การประมาณการค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ และผลกระทบจากหนังสือนายทะเบียนสหกรณ์ เรื่องการรับจดทะเบียนข้อบังคับสหกรณ์ และการแก้ไขข้อบังคับตามกฎกระทรวง” เพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพในการกำกับดูแลสหกรณ์ออมทรัพย์ในระดับประเทศ ณ ห้องประชุม 701 ชั้น 7 ชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย จำกัด โดยมีนางสาวสุทธินี แก่นสารี ประธานกรรมการดำเนินการ ชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์รัฐวิสาหกิจไทย จำกัด เป็นประธานเปิดการประชุม ซึ่งมีผู้แทนจากสหกรณ์ต่างๆ เข้าร่วมประชุมจำนวนมาก
นางสาวสุทธินี แก่นสารี ประธานกรรมการดำเนินการ ชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์รัฐวิสาหกิจไทย จำกัด กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ในการระดมความคิดเห็นผู้แทนสหกรณ์ทั่วประเทศ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสะท้อนฐานะการเงินที่แท้จริง รักษาสิทธิของสมาชิกอย่างเป็นธรรม เสริมสร้างความมั่นคงทางการเงินของสหกรณ์ และเพื่อเป็นการพัฒนา คุ้มครองและสร้างเสถียรภาพแก่ระบบสหกรณ์ (อยู่ในเหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติสหกรณ์ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2562)
ในการนี้ได้เปิดโอกาสให้ผู้แทนจากสหกรณ์ต่าง ๆ ได้ร่วมเสนอข้อมูลและข้อคิดเห็นที่น่าสนใจ อาทิ นายนิธิ มาวิเลิศ ประธานกรรมการ สหกรณ์ออมทรัพย์การสื่อสารแห่งประเทศไทย จำกัด ได้นำเสนอผล กระทบจากประกาศนายทะเบียนสหกรณ์ เรื่องการประมาณการค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ สำหรับสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนที่เรียกเก็บเงินงวดชำระหนี้จากสมาชิกโดยการหักจากเงินได้ ณ ที่จ่าย พ.ศ.2567 นายพิสิษฐ สุขอนันต์ ประธานกรรมการ สหกรณ์ออมทรัพย์การยางแห่งประเทศไทย จำกัด นำเสนอผลกระทบจากหนังสือนายทะเบียนสหกรณ์ เรื่องการรับจดทะเบียนข้อบังคับสหกรณ์ กรณีที่ไม่มีข้อความ “คำแนะนำนายทะเบียนสหกรณ์” อยู่ในข้อบังคับ นายวรวิทย์ สุฉันทบุตร ประธานกรรมการ สหกรณ์ออมทรัพย์องค์การเภสัชกรรม จำกัด ได้นำเสนอผลกระทบจากการแก้ไขข้อบังคับตามกฎกระทรวง ว่าด้วยลักษณะ วัตถุประสงค์ และขอบเขตการดำเนินกิจการของสหกรณ์แต่ละประเภทที่สามารถจดทะเบียนได้ พ.ศ. 2567
ทั้งนี้ ในช่วงท้ายของการประชุม นางสาวสุทธินี แก่นสารี ประธานกรรมการดำเนินการชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์รัฐวิสาหกิจไทย จำกัด นายพิสิษฐ สุขอนันต์ กรรมการดำเนินการและเลขานุการชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์รัฐวิสาหกิจไทย จำกัด, นายไพบูลย์ แก้วเพทาย ที่ปรึกษาชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์รัฐวิสาหกิจไทย จำกัด และ ดร.มนตรี ช่วยชู ผู้สอบบัญชีของชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์รัฐวิสาหกิจไทย จำกัด และสมาชิกขบวนการสหกรณ์อีกหลายท่าน ได้ร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูลและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับภาพรวมของผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับสหกรณ์ พร้อมทั้งเสนอแนวทางและทิศทางในการดำเนินการเพื่อบรรเทาผลกระทบดังกล่าว โดยเรียกร้องให้ทบทวนการปฏิบัติตามประกาศนายทะเบียนสหกรณ์ คำแนะนำของนายทะเบียนสหกรณ์ และกฎกระทรวงที่เกี่ยวข้องต่อไป
ด้านนายนิธิ มาวิเลิศ ประธานกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์การสื่อสารแห่งประเทศไทย จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า ชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์ เราถือว่าเป็นนิติบุคคลองค์กรขนาดใหญ่ ที่ดูแลสมาชิกสหกรณ์ทั่วประเทศ โดยการพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันในระบบสหกรณ์ แต่วันนี้เราโดนข้อบังคับประกาศระเบียบคำสั่ง ที่กำหนดหลักเกณฑ์ออกมาซึ่งอาจส่งผลกระทบกับความจำเป็นของการอยู่รอดของสหกรณ์ เพราะสหกรณ์ที่มีอยู่ตอนนี้ 1,000 กว่าแห่ง โดยเฉพาะสหกรณ์ขนาดใหญ่และขนาดเล็กได้รับผลกระทบหลายด้าน แต่เดิมการสร้างประโยชน์ในการลงหุ้นลงทุนก็โดนจำกัดมาแล้วหนึ่งรอบ เราจึงมารวมตัวกันก็เพราะว่าเราโดนจำกัดในเรื่องการบริหารจัดการหนี้สูญ หนี้เสียที่เรียกว่าค่าเผื่อหนี้ จุดนี้เป็นหนี้ไม่เกิดรายได้ต่อองค์กร แต่เราใช้ความทุ่มเทในการติดตามหนี้พวกนี้เข้ามา เพื่อให้เป็นรายได้ของสหกรณ์ แต่ปรากฏว่าสหกรณ์เองจำกัดบทบาท ไม่ให้นำหนี้ที่เราตามหนี้กลับมาได้นำกลับไปใช้เป็นรายได้หรือค่าใช้จ่ายที่ลดลงได้ ทำให้กระทบต่อสหกรณ์และส่งผลต่อการปันผลของสมาชิกได้รับปันผลน้อยลง สมาชิกได้รับประโยชน์น้อยลง
ดังนั้นเป็นเหตุผลในวันนี้ที่เรามารวมกลุ่มกันเพื่อที่จะแสดงให้ กรมส่งเสริมสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าใจเราด้วยว่าสิ่งที่ทางกรมทำเราไม่ได้ขัดขืน เพียงแต่ขอให้ท่านมีบทเฉพาะกาลหรือกำหนดช่วงเวลาให้เราปรับตัวให้เราสามารถทำตามกฎได้