ดร.อาทิตย์ โฆษกกรมพัฒนาที่ดิน กล่าวว่า ปัจจุบันเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการฯ เล็งเห็นถึงความสำคัญของการอนุรักษ์ดินและน้ำ การบูรณาการการทำงานร่วมกันของหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ เช่น หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ และผู้นำท้องถิ่น รวมถึงชุมชนที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ส่งผลให้เกษตรกรในพื้นที่แห่งนี้ประสบความสำเร็จในการใช้ประโยชน์ที่ดิน ลดปัญหาการชะล้างพังทลายของดิน
จากเมื่อก่อนพื้นที่ดังกล่าวนิยมปลูกพืชเชิงเดี่ยว เกษตรกรมีการใช้ปุ๋ยเคมีทำให้ดินขาดความอุดมสมบูรณ์ กรมพัฒนาที่ดิน โดยสถานีพัฒนาที่ดินเชียงใหม่ สำนักงานพัฒนาที่ดินเขต 6 ได้เข้ามาแนะนำการจัดทำระบบอนุรักษ์ดินและน้ำด้วยระบบคันคูเบนน้ำ ขั้นบันไดดินปลูกไม้ผล การปรับปรุงดินโดยการนำวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรมาทำเป็นปุ๋ยหมัก น้ำหมักชีวภาพ เพื่อใช้กับพืชที่เกษตรกรปลูก จึงทำให้ดินกลับมาอุดมสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น รวมทั้ง ดำเนินการพัฒนาพื้นที่โดยการปลูกหญ้าแฝก และในพื้นที่ลำห้วยได้สร้างฝายชะลอน้ำ ช่วยดักตะกอนดิน กักเก็บน้ำทำให้ดินชุ่มชื้น รวมถึงการปรับระดับแปลงนา จำนวน 80 ไร่ ให้สามารถใช้ปุ๋ยได้อย่างเหมาะสม ช่วยลดต้นทุน
ผลสำเร็จจากงานจัดระบบอนุรักษ์ดินและน้ำโครงการดอยฟ้าห่มปก ส่งผลให้เกษตรกรสามารถจัดการพื้นที่ได้อย่างเป็นระบบ มีสัดส่วนในการปลูกพืช อีกทั้งยังพึ่งพาตนเองและคนในชุมชนได้ นอกจากนี้ยังเป็นการฟื้นฟูผืนป่าให้กลับมามีความอุดมสมบูรณ์และยังเป็นการช่วยรักษาแหล่งต้นน้ำอีกทางหนึ่ง โดยมีเกษตรกร หมอดินอาสา ประชาชนบ้านโป่งไฮ และสื่อมวลชน ให้ความสนใจเข้าร่วมเยี่ยมชมโครงการฯ ในครั้งนี้ด้วย