เนื่องจากขณะนี้สหกรณ์ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ซึ่งพบว่าการจำกัดการลงทุน ส่งผลต่อการบริหารงานที่จะมีโอกาสในการทำรายได้เพื่อดูแลสมาชิกสหกรณ์ให้มีความกินดีอยู่ดี จนตอนนี้เกิดความขาดแคลนส่วนที่เป็นเงินหมุนเวียนในการดำเนินงานของสหกรณ์ เช่น การรับฝากเงินจากสมาชิกลดลง และอัตราดอกเบี้ยเงินฝากก็ต้องลดลงเป็นลำดับ ซึ่งในอนาคตอาจส่งผลให้เงินดอกเบี้ยของสหกรณ์น้อยกว่าสถาบันการเงินอื่นๆ ส่งผลให้สหกรณ์ขาดสภาพคล่อง เพราะเกิดการย้ายเงินฝากจากภาคสหกรณ์ไปสู่สถาบันการเงิน เช่น ธนาคาร ซึ่งเป็นธุรกิจทุนนิยม ที่ไม่เคยให้สวัสดิการใดใดแก่ประชาชน ในขณะที่สหกรณ์ดูแลสวัสดิการให้กับสมาชิก ดังนั้นการยกเลิกกฎกระทรวงจะต้องเร่งยกเลิก หรือชะลอให้เร็วที่สุดก่อนที่ความเดือดร้อนจะลุกลามไปทุกสหกรณ์
โดยภายหลังการรับฟังการชี้แจง อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้ยืนยันว่า ขอเวลาให้กรมได้ศึกษาถึงผลกระทบจากกฎกระทรวง เบื้องต้นยินดีที่จะทบทวนและแก้ไขความเดือดร้อน ภายในกรอบเวลา 30 วัน จะเชิญสหกรณ์ที่ได้รับความเดือดร้อนมารับฟังข้อสรุปแนวทางแก้ไขความเดือดร้อน และขอให้ทางสหกรณ์ที่ได้รับความเดือดร้อนสรุปความเดือดร้อนมายังกรมฯต่อไป