วันที่ 10 ธ.ค.67 นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม ประธานกรรมการดำเนินการสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย (สสท.) เป็นประธานเปิดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2567 ของ สสท. โดยมีคณะกรรมการดำเนินการ สสท. ผู้ตรวจสอบกิจการ ที่ปรึกษาฯ และสหกรณ์สมาชิกกว่า 1,000 คน รวมทั้งผู้แทนกรมส่งเสริมสหกรณ์, กรมตรวจบัญชีสหกรณ์, นายกสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ผู้เข้าร่วมประชุม ณ ห้องไดมอนด์ ฮอลล์ ชั้น 5 โรงแรม เอเชีย แอร์พอร์ต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี
นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม กล่าวว่า สสท. จัดประชุมใหญ่ฯ เป็นประจำทุกปี ซึ่งในปีนี้เป็นการประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี 2567 เพื่อให้สหกรณ์สมาชิกทั่วประเทศได้ส่งผู้แทนเข้าร่วมรับฟังผลการดำเนินงาน รวมถึงพิจารณาอนุมัติร่างงบประมาณประจำปี 2568 รวมถึงประชุมตามวาระต่างๆ และเพื่อเป็นการเชิดชูเกียรติให้ผู้ทรงคุณค่าทางด้านสหกรณ์ พร้อมทั้งมอบโล่บุคลากรผู้ทรงคุณค่า จำนวน 3 ท่าน ได้แก่ 1.นายมนุชาธิป วรกาญจนานนท์ อดีตสหกรณ์จังหวัดสงขลา 2.ว่าที่ร้อยตรี สุระศักดิ์ บุญชาญ สหกรณ์จังหวัดอุดรธานี และ 3.ดร.กมล ศรีล้อม ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์สาธารณสุขขอนแก่น จำกัด และมอบเงินช่วยเหลือสหกรณ์ผู้ประสบภัยน้ำท่วม 7 จังหวัดภาคใต้ รวม 350,000 บาท
ในปีนี้ นอกเหนือจากการประชุมใหญ่ฯ ยังจัดให้มีโครงการจำลอง “สภาสหกรณ์แห่งชาติ” เพื่อทดลองดำเนินการให้มีการประชุมสภาสหกรณ์ตามแนวทางที่กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ดำเนินการทดลองจัดตั้งสหกรณ์วัดจันทร์ไม่จำกัดสินใช้ ในปี พ.ศ. 2459 เป็นการย้อนกลับไปสู่อดีตอันก่อให้เกิดสหกรณ์ในประเทศไทย เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ร่วมกันในการจัดตั้งสภาสหกรณ์ ทั้งนี้ สภาสหกรณ์แห่งชาติ เป็นแหล่งรวมสมาชิกสหกรณ์ทั่วประเทศ ที่จะเป็นเวทีสะท้อนปัญหา และความต้องการ โดยกำหนดให้มีการประชุมทุกวันที่ 9 ธันวาคม ของทุกปี
สันนิบาตสหกรณ์ฯ ดำเนินงานเพื่อขบวนการสหกรณ์ไทยโดยมีพันธกิจที่สอดคล้องและเป็นไปตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 110 แห่งพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. 2542 (ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2553 และ พ.ศ.2562) ประกอบด้วย 1.การส่งเสริมและเผยแพร่กิจการของสหกรณ์ 2.แนะนำ ช่วยเหลือทางวิชาการแก่สหกรณ์และติดต่อประสานงานระหว่างสหกรณ์กับส่วนราชการ 3.การให้ศึกษาฝึกอบรมวิชาการสหกรณ์ 4.ส่งเสริมสัมพันธภาพระหว่างสหกรณ์ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ รวมไปถึง กิจกรรมสันนิบาตสหกรณ์จังหวัดตามกรอบวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งสันนิบาตสหกรณ์จังหวัด ผ่านการจัดสรรเงินค่าบำรุงคืน 10% ของค่าบำรุงที่ได้รับ 5.การซื้อ จัดหา จำหน่าย ถือกรรมสิทธิ์ ครอบครองหรือทำนิติกรรมเกี่ยวกับทรัพย์สินใดๆ 6.ส่งเสริมธุรกิจการค้า อุตสาหกรรม หรือบริการของสหกรณ์ 7.สนับสนุนและช่วยเหลือแก้ไขอุปสรรคข้อขัดข้องที่เกี่ยวกับกิจการของสหกรณ์ซึ่งเป็นการกระทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวม 8.รักษาผลประโยชน์อันพึงมีพึงได้จากการสนับสนุนของรัฐ องค์การระหว่างประเทศ/หรือภาคเอกชน 9.ร่วมมือกับภาครัฐในการส่งเสริมสหกรณ์และ 10. ดำเนินการอื่น เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ หรือตามที่คณะกรรมการพัฒนาการสหกรณ์แห่งชาติ
“อย่างไรก็ดี การขับเคลื่อนในปี 2568 ทุกคนในขบวนการสหกรณ์ พร้อมจะเดินหน้าไปด้วยกัน ซึ่งสอดรับกับมติสหประชาชาติ ที่กำหนดให้ปี 2025 เป็นปีเริ่มต้นของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากของทุกประเทศด้วยระบบเศรษฐศาสตร์สหกรณ์ เราจะไม่ทิ้งสหกรณ์ใดสหกรณ์หนึ่งไว้ข้างหลัง” ประธานกรรมการดำเนินการ สสท. กล่าว