วันนี้ (9 ธ.ค. 67) ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (Swoc) อาคาร 99 ปี หม่อมหลวงชูชาติ กำกู กรมชลประทาน ถนนสามเสน นายเดช เล็กวิชัย รองอธิบดีกรมชลประทาน เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำ ผ่านระบบบ Video Conference ไปยังสำนักงานชลประทานที่ 1-17 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามและวิเคราะห์สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำ แหล่งน้ำ และและแม่น้ำสายหลักต่างๆ สำหรับเป็นข้อมูลในการบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องและเหมาะสมในแต่ละพื้นที่
ปัจจุบัน (9 ธ.ค. 67) อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำรวมกันทั้งสิ้นประมาณ 62,902 ล้าน ลบ.ม. (82% ของความจุอ่างฯ รวมกัน) เป็นน้ำใช้การได้ 38,960 ล้าน ลบ.ม. (74% ของความจุอ่างฯ รวมกัน) เฉพาะในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา 4 เขื่อนหลัก (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวมกันประมาณ 21,524 ล้าน ลบ.ม. (87 % ของความจุอ่างฯ รวมกัน) มีปริมาณน้ำใช้การได้กว่า 14,828 ล้าน ลบ.ม.
ทั้งนี้ ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา ได้เกิดฝนตกหนักจนทำให้เกิดอุทกภัยในหลายจังหวัดของทางภาคใต้ รัฐบาลมีความเป็นห่วงเป็นใยพี่น้องประชาชน ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงาน เร่งระบายน้ำท่วมขังออกจากพื้นที่ ปัจจุบันภาพรวมสถานการณ์เข้าสู่สภาวะปกติแล้วทั้ง 14 จังหวัด ส่วนบางพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขัง หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มเติม คาดว่าจะเข้าสู่สภาวะปกติภายใน 1-2 วัน
อย่างไรก็ตาม ในช่วงวันที่ 12-16 ธันวาคม 2567 นี้ กรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ว่าจะเกิดฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งทางภาคใต้ บริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อาจทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และดินโคลนถล่ม จึงได้สั่งการให้สำนักงานชลประทานที่ 15-17 ติดตามและเฝ้าระวังระดับน้ำอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่ อำเภอชะอวด อำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมกับพร่องน้ำ เพื่อเตรียมพื้นที่ว่างไว้รองรับน้ำฝนที่จะตกลงมาเพิ่มอีกระลอก รวมไปถึงการจัดเตรียมเครื่องจักร เครื่องมือ เครื่องสูบน้ำ รวมกว่า 500 หน่วย ประจำจุดเสี่ยงในการเข้าช่วยเหลือหากเกิดอุทกภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้พี่น้องประชาชนให้ได้มากที่สุด ตามนโยบายของ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์