ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ(SWOC) กรมชลประทาน เปิดเผยว่า ขณะนี้พื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำเจ้าพระยา ยังคงมีฝนตกชุกในหลายพื้นที่ ส่งผลให้มีปริมาณน้ำสะสมไหลลงสู่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาอย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบัน(26 ก.ย.67) ที่สถานนีวัดน้ำ C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ เมื่อเวลา 14.00 น มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,877 ลบ.ม./วินาที มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยายกตัวสูงขึ้นตามลำดับ กรมชลประทาน ได้บริหารจัดการน้ำเข้าระบบชลประทานทั้ง 2 ฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยา ตามศักยภาพของระบบส่งน้ำและสอดคล้องกับปริมาณฝนที่ตกในพื้นที่ พร้อมควบคุมระดับน้ำด้านหน้าเขื่อนไม่ให้เกินระดับ +17.00 ม.(รทก. ) เพื่อรักษาความมั่นคงของตัวเขื่อนและส่งผลกระทบกับพื้นที่ด้านเหนือและท้ายเขื่อนน้อยที่สุด
โดยปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในอัตรา 1,600 ลบ.ม./วินาที ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำบริเวณคลองโผงเผง จ.อ่างทอง คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา และ ต.หัวเวียง อ.เสนา, ต.ลาดชิด, ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา (แม่น้ำน้อย) เพิ่มสูงขึ้น จึงขอให้ประชาชนเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำจากระดับน้ำทางตอนบนและฝนที่ตกในพื้นที่อย่างใกล้ชิด หากระดับน้ำทางตอนบนเพิ่มสูงขึ้น และจะส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้น จะแจ้งให้ทราบเป็นระยะต่อไป
ในส่วนของพื้นที่จังหวัดสมุทรสงคราม สมุทรสาคร นครปฐม นนทบุรี กรุงเทพมหานคร และสมุทรปราการ กรมอุทกศาตร์ทหารเรือ ได้คาดการณ์ว่า ในช่วงวันที่ 28 กันยายน – 2 ตุลาคม 2567 จะเกิดสถานการณ์น้ำทะเลหนุนอีกครั้ง ซึ่งอาจส่งผลให้พื้นที่เสี่ยงบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำแม่กลอง และแม่น้ำท่าจีน ชุมชนนอกแนวคันกั้นน้ำ แนวเขื่อนชั่วคราว และบริเวณที่ไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร (แนวฟันหลอ) มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังระดับน้ำด้วยเช่นกัน