กระทรวงยุติธรรม โดย กรมคุมประพฤติ MOU ผนึกความร่วมมือสมาคมช่างผมเสริมสวยแห่งประเทศไทย และสมาคมเดอะเชฟประเทศไทย ร่วมทำหลักสูตร-ฝึกทักษะสร้างอาชีพ วางเป้าหมายปั้นเชฟมือทอง - ช่างทำผมสุภาพบุรุษ-สตรี มืออาชีพ มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับผู้ที่อยู่ในความดูแลของกรมคุมประพฤติมีอาชีพที่มั่นคง ยั่งยืน
วันที่ 26 กันยายน 2567 ณ ห้องรับรองกรมสอบสวนคดีพิเศษ ชั้น 2 อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานสักขีพยานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการสร้างงานสร้างอาชีพให้แก่ผู้ที่อยู่ในความดูแลของกรมคุมประพฤติ โดยเป็นการลงนามความตกลง ระหว่าง กรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม กับสมาคมช่างผมเสริมสวยแห่งประเทศไทย และสมาคมเดอะเชพประเทศไทย
พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า เพื่อส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ที่อยู่ในความดูแลของกรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรมให้ได้รับโอกาสทางด้านการประกอบอาชีพ และเพื่อให้บุคคลเหล่านี้มีรายได้เลี้ยงตนเองและครอบครัว ตลอดจนไม่หวนกลับไปกระทำผิดซ้ำอีก กระทรวงยุติธรรม กำหนดนโยบายสำคัญให้กับหน่วยงานในกลุ่มพัฒนาพฤตินิสัยซึ่งหนึ่งในนั้น คือ กรมคุมประพฤติเร่งหาแนวทางวิธีการหรือกิจกรรมในการบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ มุ่งเน้นการส่งเสริมและพัฒนาทักษะโอกาสทางอาชีพเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับผู้ที่อยู่ในความดูแลของกรมคุมประพฤติที่กลับตัวกลับใจในการทำความดีได้มีอาชีพที่มั่นคง ยั่งยืน จึงนำมาสู่การวันสำคัญในวันนี้ที่เป็นการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง กรมคุมประพฤติกับ ๒ หน่วยงานภาคเอกชนในครั้งนี้
สำหรับบันทึกข้อตกลงความร่วมมือดังกล่าว มีวัตถุประสงค์ เพื่อสนับสนุนการฝึกทักษะวิชาชีพช่างทำผมสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีและวิชาชีพการประกอบอาหาร ให้แก่ผู้ที่อยู่ในความดูแลของกรมคุมประพฤติ ให้มีอาชีพที่สุจริต มีรายได้เลี้ยงดูตนเองและครอบครัว สามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้ตามสมควร เป็นพลเมืองดีของสังคม ตลอดจนเป็นกำลังของประเทศชาติในภายภาคหน้า และเพื่อส่งเสริมพัฒนาทางอาชีพช่างทำผมสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี อาชีพการประกอบอาหารและขายอาหารให้เป็นอาชีพทางเลือกในการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคมและบูรณาการภารกิจร่วมกันในการสร้างงานสร้างอาชีพระหว่างสมาคมช่างผมเสริมสวยแห่งประเทศไทยและสมาคมเดอะเชฟประเทศไทยกับกรมคุมประพฤติ
“การสร้างงาน สร้างอาชีพ ถือเป็นอีกมาตรการสำคัญที่กระทรวงยุติธรรมมอบหมายให้กรมคุมประพฤติเร่งนำไปดำเนินการเพื่อเพื่อส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพผู้ที่อยู่ภายใต้การดูแลช่วยเหลือตนเองและดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้ด้วยการมีอาชีพ มีรายได้เลี้ยงตัวเองได้ เพื่อป้องกันมิให้ผู้ต้องหาและผู้กระทำผิดหวนกลับไปกระทำผิดอีก โดยเราได้รับความร่วมมืออย่างดีจากสมาคมช่างผมเสริมสวยแห่งประเทศไทย สมาคมเดอะเชพประเทศไทย ในการสร้างโอกาสและคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ผู้ที่อยู่ในความดูแล โดยผ่านกระบวนการฝึกวิชาชีพ เพิ่มทักษะความรู้ ความเชี่ยวชาญด้านอาหารและช่างเสริมสวยให้เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงาน หรือสามารถประกอบอาชีพอิสระยกระดับได้นำไปสู่การมีรายได้ที่มั่นคง ยั่งยืนในครอบครัว” พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง กล่าวย้ำ
ด้านนายเรืองศักดิ์ สุวารี อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวว่า ในส่วนของกรมคุมประพฤติ จะทำหน้าที่ คัดเลือกผู้ที่อยู่ในความดูแลของกรมคุมประพฤติที่มีความสนใจและมีคุณสมบัติเข้ารับการฝึกทักษะวิชาชีพช่างทำผมสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี รวมถึงยกระดับต่อยอดผู้ที่อยู่ในความดูแลในวิชาชีพการประกอบอาหาร ตลอดจนสนับสนุนสถานที่และบุคลากรในการดำเนินกิจกรรมหรือโครงการการฝึกทักษะวิชาชีพช่างทำผมสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี รวมถึงวิชาชีพการประกอบอาหารทุกรูปแบบและติดตามผลความคืบหน้าในด้านการประกอบอาชีพและความเปลี่ยนแปลงด้านพฤตินิสัย ภายหลังจากผู้ที่อยู่ในความดูแลของกรมคุมประพฤติได้ผ่านการฝึกทักษะวิชาชีพช่างทำผมสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี และวิชาชีพการประกอบอาหาร ตลอดจนสนับสนุนทุนประกอบอาชีพตามความต้องการและจำเป็น ภายใต้หลักเกณฑ์และเงื่อนไขของหน่วยงานที่ให้การสนับสนุนทุนประกอบอาชีพ
ส่วนนายอดิศร เชื้อคำเพ็ง นายกสมาคมช่างผมเสริมสวยแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในส่วนของสมาคมช่างผมเสริมสวยจะทำหน้าที่ สนับสนุนวิทยากร ผู้เชี่ยวชาญ ให้ความรู้ในด้านฝึกอบรมทักษะวิชาชีพช่างทำผมสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี แก่ผู้ที่อยู่ในความดูแลของกรมคุมประพฤติและหน่วยงานในสังกัดกรมคุมประพฤติตลอดจนจัดหาเครื่องมือ วัสดุอุปกรณ์ เอกสารการประกอบการฝึกทักษะวิชาชีพช่างทำผมสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีให้แก่ผู้ที่อยู่ในความดูแลของกรมคุมประพฤติที่เข้ารับการฝึกทักษะอาชีพช่างทำผมสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีจัดทำหลักสูตรฝึกทักษะวิชาชีพช่างทำผมสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี และการพัฒนาสื่อการสอนที่เห็นชอบร่วมกันและออกประกาศนีบัตรให้แก่ผู้ที่อยู่ในความดูแลของกรมคุมประพฤติที่ผ่านการฝึกทักษะวิชาชีพช่างทำผมสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี รวมทั้งเป็นที่ปรึกษา ให้คำแนะนำ และส่งเสริมความรู้ในการจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับอาชีพช่างผมเสริมสวยไปจนถึงให้การสนับสนุนผู้ที่อยู่ในความดูแลของกรมคุมประพฤติที่ผ่านหลักสูตรการฝึกทักษะวิชาชีพช่างทำผมสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี เข้าฝึกประสบการณ์วิชาชีพในสถานประกอบการชมรม การออกหน่วยจิตอาสาและการเข้าสู่เวทีการประกวดในระดับสากล
ด้านนายทองเลี่ยม พุกทอง นายกสมาคมเดอะเชฟประเทศไทย กล่าวว่า รู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือในครั้งนี้ ที่ผ่านมาสมาคมเดอะเชฟฯ กับ กรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม มีการดำเนินการในกิจกรรมต่างๆ ร่วมกันต่อเนื่องมาเป็นเวลากว่า 3 ปี สร้างสรรค์อาชีพให้กับผู้ที่อยู่ในความดูแลของกรมคุมประพฤติได้ประกอบอาชีพและมีโอกาสทางอาชีพ สมาคมเดอะเชฟฯ จึงพร้อมสนับสนุนวิทยากร ผู้เชี่ยวชาญ ให้ความรู้ในด้านฝึกอบรมทักษะวิชาชีพการประกอบอาหาร ตลอดจนสนับสนุนการจัดหาเครื่องมือ วัสดุอุปกรณ์ เอกสารการประกอบการฝึกทักษะวิชาชีพและจัดทำหลักสูตรฝึกทักษะวิชาชีพการประกอบอาหาร และการพัฒนาสื่อการสอนที่เห็นชอบร่วมกัน และออกประกาศนีบัตรให้แก่ผู้ที่อยู่ในความดูแลของกรมคุมประพฤติที่ผ่านการฝึกทักษะวิชาชีพการประกอบอาหาร และเป็นที่ปรึกษา ให้คำแนะนำ และส่งเสริมความรู้ในการจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับอาชีพด้านการประกอบอาหารพร้อมทาน สนับสนุนผู้ที่อยู่ในความดูแลของกรมคุมประพฤติที่ผ่านหลักสูตรการฝึกทักษะวิชาชีพการประกอบอาหาร เข้าฝึกประสบการณ์วิชาชีพในสถานประกอบการ ชมรม การออกหน่วยจิตอาสาและการเข้าสู่เวทีการประกวดในระดับสากลต่อไป
นอกจากนี้ กรมคุมประพฤติได้นำเสนอผลงานในปีงบประมาณ 2567 ซึ่งนับเป็นผลงานในด้านการพัฒนาพฤตินิสัยที่โดดเด่น โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหายาเสพติดในมิติของการป้องกันและแก้ไขที่มีประสิทธิภาพ อาทิ การบูรณาการคัดกรองและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้เสพและผู้ติดยาเสพติด ภายใต้โครงการ DRIP MODEL สามารถเสนอศาลเพิ่มเงื่อนไขให้เข้ารับการบำบัดรักษา จูงใจให้เข้ารับการบำบัดรักษา และติดตามหลังออกจากค่ายทุก 5 วัน จำนวน 18 ครั้ง การพัฒนากระบวนการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติดแบบครบวงจรในรูปแบบค่าย 5 วัน 15 วัน และ 60 วัน ผลเป็นที่ประจักษ์สามารถลดการเสพซ้ำได้ต่ำกว่าสถิติสากลกว่าครึ่งหนึ่ง การนำเสนอปัจจัยความสำเร็จรวมถึงกลยุทธ์ในกระบวนการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด อาทิ ทุกค่ายต้องไม่ม่วง เตรียมคนจัด คัดคนเข้า การติดตามหลังออกจากค่ายโดยอาสาสมัครคุมประพฤติ เพื่อนำมาปรับใช้ในค่ายที่จะเกิดขึ้นในปี 2568
การมีส่วนร่วมของ “อาสาสมัครคุมประพฤติ” ในการติดตามป้องกันการเสพซ้ำ ช่วยจูงใจไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ให้คำปรึกษาและสนับสนุนการรับรายงานตัวผ่านจอภาพ โดยมีการสรรหาและแต่งตั้งอาสาสมัครคุมประพฤติที่เป็นกลุ่มผู้นำชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เพื่อช่วยเหลืองาน วางเป้าหมายให้ได้ 75,322 ราย ครอบคลุมทุกหมู่บ้าน การสร้างงาน สร้างอาชีพผ่านโครงการสำคัญต่างๆ อาทิ Street Food สร้างอาชีพและการฝึกทักษะอาชีพทำผมเสริมสวยให้กับผู้ที่อยู่ในความดูแลให้ได้รับโอกาส มีรายได้เลี้ยงดูตนเอง ไม่หวนกลับไปกระทำผิดซ้ำอีก
และที่นับเป็นก้าวสำคัญที่จะเกิดขึ้นในปี 2568 กรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรมเตรียมดำเนินการอันจะเป็นการนำความยุติธรรมเข้าถึงประชาชนและลดความเหลื่อมล้ำ คือ “การรับรายงานตัวผ่านจอภาพ” กับผู้ถูกคุมความประพฤติทุกฐานความผิด ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ห่างไกลจากสำนักงานคุมประพฤติ การเดินทางลำบาก เช่น เกิดอุทกภัยในพื้นที่ ไม่สามารถลางานเพื่อมารายงานตัว ณ ที่ตั้งสำนักงานคุมประพฤติได้ ซึ่งวิธีการนี้ทำให้เกิดความสะดวก ลดเวลาการเดินทาง และที่สำคัญเป็นการเพิ่มช่องทางการรับรายงานตัว ช่วยให้ผู้ที่อยู่ในความดูแลของกรมคุมประพฤติได้รับการแก้ไขฟื้นฟูรายบุคคลกับพนักงานคุมประพฤติ เป็นการสร้างสัมพันธภาพที่ดีระหว่างเจ้าหน้าที่กับผู้กระทำผิดและนำไปสู่การผิดเงื่อนไขที่ลดลง