Newstimestory

ปักหมุด 7 ไฮไลท์สาวกโอทอปต้องห้ามพลาดในงาน “โอทอปศิลปาชีพ” 67

เข้าสู่วันที่ 5 หรือครึ่งทางแล้ว สำหรับงาน “ศิลปาชีพ ประทีปไทย OTOP หลอมดวงใจ ด้วยพระบารมี” หรือที่เรียกติดปากกันว่า “โอทอปศิลปาชีพ” ที่กรมการพัฒนาชุมชนจัดขึ้น ณ  อาคารชาเลนเจอร์ 1 -3 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี     ซึ่งงานนี้ได้ แอนโทเนีย โพซิ้ว  Miss Universe Thailand 2023  มาร่วมเดินแบบพร้อมการแสดงแฟชั่นโชว์ผ้าไทย “คนขายาว”และ “นางแบบ” ระดับแถวหน้าของเมืองไทย ใครที่ยังลังเลต้องรีบตัดสินใจ เพราะหนึ่งปีมีแค่หนึ่งครั้งกับมหกรรมดีๆ แบบนี้ ตลอด 3 วันที่ผ่านมาทำยอดจำหน่ายทะลุ 206 ล้านบาทมีประชาชนเข้าเยี่ยมชม 6 หมื่นคน   โดยโซนที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือ โซนผ้าและเครื่องแต่งกาย ตามด้วยของใช้  อาหาร  OTOP ชวนชิม และสมุนไพร ตามลำดับ โดยเฉพาะแค่เทศกาลวันแม่วันเดียวทำยอดขายได้ 67.8 ล้าน  กรมการพัฒนาชุมชนเชิญชวนทุกคนมาชม ชิม ช้อปกันได้ถึง 18 สิงหาคมนี้   โดยปีนี้ภายในงานมีสินค้าคุณภาพหลากหลายให้เลือกดูเลือกซื้อพร้อมแนะนำ 7 ไฮไลท์ที่น่าสนใจภายในงานที่ห้ามพลาด 

เข้าประตูเข้าไปเจอไฮไลท์แรก   ที่เด่นสะดุดตามาแต่ไกล กับภาพปักที่ชื่อ “ภาพป่ารักน้ำ” โซนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ   ซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 2.5  ล้านบาท  ลักษณะผ้าเป็นภาพปัก ขนาด 2*3 เมตร ภาพปักมือ ด้วยเส้นฝ้ายย้อมสี ฝีมือครูปักผ้าจากค่ายจุฬาภรณ์ จังหวัดนราธิวาส จำนวน 10 คน ใช้เวลาปักนาน 10 เดือน ภาพเขียนต้นแบบ ขนาดเดียวกันภาพเขียนสีน้ำมัน ฝีมือจิตรกรมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ สวนจิตรลดา จำนวน 5 คน ใช้เวลาเขียนนาน 5 เดือน ซึ่งภาพเขียนจะต้องเสร็จก่อน เพื่อเป็นเค้าโครงแบบและสีในการปัก และให้ภาพทั้งสองเหมือนกันให้มากที่สุด

สำหรับที่มาของภาพและชื่อภาพ ป่ารักน้ำ คำว่า ป่ารักน้ำ มาจากพระราชดำรัส สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง  ที่ว่า "พระเจ้าอยู่หัวเป็นน้ำ ฉันจะเป็นป่า ป่าที่ถวายความจงรักภักดีต่อน้ำ พระเจ้าอยู่หัวสร้างอ่างเก็บน้ำ ฉันจะสร้างป่า" พระราชทานแก่ราษฎร บ้านถ้ำติ้ว อ.ส่องดาว จ.สกลนคร เมื่อ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2525 ทรงมีพระราชเสาวนีย์ให้จัดตั้งโครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ มีพระราชประสงค์ให้ประชาชน กับป่าอยู่ร่วมกันอย่างพึ่งพาอาศัยกันเกื้อกูลกัน สร้างความเจริญงอกงามให้แก่กันและกัน

ไฮไลท์ที่ 2 อยู่ตรงกลางโซน “ศิลปินโอทอป” ที่อยากแนะนำให้ทุกคนเช็กอินแชะๆกับ  “นกยูง” ขนาดใหญ่สูงกว่า 4 เมตร สัญลักษณ์แห่งความงาม ความภาคภูมิใจ และแสดงถึงการเชิดชูอัตลักษณ์คุณค่ามรดกภูมิปัญญา “ผ้าไทย” และความภาคภูมิใจที่ต้องการส่งต่อให้กับผู้ที่มาร่วมงานทุกคน ได้สัมผัสถึงเรื่องราวของภูมิปัญญา วัฒนธรรมจากบรรพบุรุษที่มาบรรจบกับนวัตกรรม และความฝันของคนรุ่นใหม่  จนกลายเป็น “ชุดไทยร่วมสมัย”  ที่มีดีไซน์โดดเด่นล้ำสมัย สู่ความภาคภูมิใจระดับโลก  และยังแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของประเทศไทยในการรักษามรดกทางวัฒนธรรมของตนไว้ในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วอีกด้วย

ไฮไลท์ที่ 3  คือโซน  “ผ้าไทยใส่ให้สนุก”  จัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ้าไทยจาก 3 โครงภายใต้โครงการผ้าไทยใส่ให้สนุก อาทิ  โครงการบาติกโมเดล ภูมิปัญญาการสร้างสรรค์ผ้าบาติกในพื้นที่ภาคใต้ ที่นำเสนอการสืบสาน และต่อยอดการพัฒนาผืนผ้าสู่ผ้าบาติกผืนงามที่มีความร่วมสมัย ตามแนวคิด  "Sustainable Fashion : แฟชั่นแห่งความยั่งยืน"   โครงการEthnic Model ผ้าชาติพันธุ์ พัฒนาเอกลักษณ์ทางชาติพันธุ์ให้สามารถสร้างมูลค่าได้มากขึ้น  ในสังคมร่วมสมัย และสามารถสร้างมูลค่าอย่างมหาศาลในตลาดโลก  และ โครงการพัฒนารูปแบบชุมชนภูมิปัญญาเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น ออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความร่วมสมัย ตรงตามความต้องการของตลาด

ไฮไลท์ที่ 4 โซนนี้ใครที่เป็นสาวกผ้าไทยย้ำเลยห้ามพลาด  รับรองเลยว่าต้องตะลึงกับฝูงชนหนาตาที่กำลังเลือกซื้อผ้าสวยๆตรงกระบะตรงหน้า เป็นโซนยอดฮิตตลอดกาลของงานโอทอป นั่นคือ “บูทมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ” จำหน่ายผลิตภัณฑ์มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ มีทั้งผ้าไหม ผ้าทอไทยหลายหลายสีสันงามตานับหมื่นๆใครมาก่อน ได้เลือกก่อน จำหน่ายในราคาพิเศษยิ่งวันสุดท้ายจัดลดกระหน่ำทุกผืน

ไฮไลท์ที่ 5  ชื่อว่าโซน “ศิลปิน OTOP”  เป็นการจัดแสดงและจำหน่ายผลงานของศิลปิน OTOP มีผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่น วิจิตรตระการตา แสดงออกถึงเอกลักษณ์ของความเป็นไทย ด้วยทักษะเชิงช่าง และเป็นงานศิลป์ชั้นยอดมาจัดแสดงและจำหน่าย เพื่อร่วมอนุรักษ์และสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่   

ไฮไลท์ที่ 6 ชอปเพลิน ๆ ที่โซน  First Lady เสื้อผ้าหลากสไตล์  ว่ากันว่าโซนนี้ มีผ้าสวย ๆ ระดับนางพญาเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าไทยแฟชั่นสำเร็จรูป ชุดลำลองใส่สบาย  แฟชั่นทันสมัย  ผ้าไทยแนวอนุรักษ์โลกจากอุดรธานี ผ้าแปรรูปใยกัญชงจากเพชรบูรณ์ ใครเป็นสาวแฟชั่นต้องไม่อ่อมให้โซนนี้

นอกจากนี้ ยังมีสินค้าโซนอื่นๆอีกมากมายที่น่าสนใจ อาทิ ผลิตภัณฑ์ผ้าไทยที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ผลิตภัณฑ์หัตถกรรมชุมชนจักสานสู่ตลาดสากล หมู่บ้านคนรักษ์ช้างและการแสดงมินิคอนเสิร์ต จากศิลปินชื่อดัง ตลอดจนกิจกรรมส่งเสริมการขายอีกมากมายตลอดทั้งวัน 


ตบท้ายก่อนกลับบ้านพลาดไม่ได้กับไฮไลท์ที่ 7  โซนโอทอปชวนชิม OTOP ชวนชิม ซึ่งขนทัพอาหารของดี ของเด่น พืช ผัก ผลไม้แต่ละจังหวัดมาให้ชิมมากถึง 176 บูท อาทิ  คอชา คอกาแฟต้องไม่พลาด กาแฟจากดอยช้างมาเองจาก เชียงราย  อาหารปักษ์ใต้รสเด็ด  ปิ้งงบทะเลจากเมืองประจวบฯ สายปลาเค็มต้องไปลองที่บูทคุณทวดปลาเค็มฝังทรายจากระนองและอีกมากมายที่ต้องรีบไปลิ้มลอง 

อย่าลืมมาชม ชิม ช้อป กันได้ถึง 18 สิงหาคมนี้ที่อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี มีสินค้าคุณภาพหลากหลายให้เลือกดู    ไทยช่วยไทย   ช่วยกันอุดหนุนสินค้าของคนไทย เพื่อช่วยกันสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจชุมชนของเรา 


ใหม่กว่า เก่ากว่า