การประชุมดังกล่าวสืบเนื่องมาจากที่กรมส่งเสริมฯ ได้มีประกาศแนวทางการแก้ไขหนี้สินสำหรับสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ ซึ่งตามมติคณะรัฐมนตรีตามที่รัฐบาลมีนโยบายในการแก้ไขปัญหาหนี้สินของทุกภาคส่วนโดยเฉพาะภาคสหกรณ์ออมทรัพย์ที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงและเศรษฐกิจของประเทศ โดยพบว่าสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูเป็นหนึ่งในปัญหาที่ต้องเร่งแก้ไขเพราะเผชิญกับภาวะหนี้สินจำนวนมากจนเกินศักยภาพจะชำระหนี้คืน คณะรัฐมนตรีจึงมีมติให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ซึ่งเป็นผู้กำกับดูและสหกรณ์ดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวผ่านเงินกู้สวัสดิการให้กับบุคลากรที่ปฏิบัติงานในหน่วยงาน และอำนวยความสะดวกให้แก่บุคลากรของหน่วยงานเพื่อประโยชน์แก่การดำรงชีพ นอกเหนือจากสวัสดิการที่หน่วยงานจัดให้เป็นกรณีปรกติ โดยในเรื่องนี้กรมส่งเสริมฯพิจารณาเห็นว่า เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ที่มีหนี้จำนวนมากให้สามารถดำรงชีพได้อย่างมีคุณภาพมากขึ้นกรมส่งเสริมฯจึงประกาศแนวทางดังนี้ 1.กำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สวัสดิการให้กับสหกรณ์เป็นดอกเบี้ยเงินกู้พิเศษในอัตราดอกเบี้ยไม่เกินร้อยละ 4.75 ต่อปี 2.ขยายระยะเวลาการชำระหนี้ให้กับสมาชิกที่เข้าร่วมโครงการฯไปจนถึงอายุ 75 ปี 3.หลักเกณฑ์ในการควบคุมยอดหนี้ให้สหกรณ์พิจารณาเงินกู้คำนึงถึงภาระหนี้สินที่สมาชิกต้องชำระให้แก่สินเชื่อสวัสดิการกับสถาบันการเงินอื่นด้วยเพื่อให้สมาชิกมีรายได้คงเหลือหลังหักชำระหนี้อย่างน้อยร้อยละ 30 และ 4.หลักเกณฑ์ผ่อนชำระหนี้เงินกู้สหกรณ์สามารถกำหนดหลักเกณฑ์ผ่อนชำระเฉพาะส่วนที่เกินกว่าทุนเรือนหุ้นที่สมาชิกถืออยู่กับสหกรณ์ และก่อนการดำเนินโครงการฯให้คณะกรรมการสหกรณ์พิจารณาถึงสภาพคล่องของสหกรณ์ การจ่ายหนี้และภาระผูกพันคืนให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ฝากเงินและเจ้าหนี้รายอื่นของสหกรณ์พร้อมทั้งให้ที่ประชุมมีมติจัดโครงการพิเศษนั้นด้วย
ทั้งนี้ ประกาศ กรมส่งเสริมสหกรณ์เรื่องแนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้สินสำหรับสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ ฉบับนี้ ประกาศไว้ ณ วันที่ 5 มกราคม 2567 รวมถึงมีหนังสือจากกรมส่งเสริมฯขอความร่วมมือสหกรณ์ปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ให้แก่สมาชิกไม่เกินร้อยละ 4.75 ต่อปี จึงเป็นที่มาของการประชุมหารือการแก้ไขปัญหาหนี้ครูและบุคลากรทางการศึกษาและแนวทางแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการจัดเก็บส่งเงินชำระหนี้ของสมาชิกสหกรณ์ ในวันนี้เพื่อหาข้อสรุปร่วมกันระหว่างสหกรณ์และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องซึ่งสหกรณ์ได้ประชุมร่วมกันและมีมติเข้าร่วมโครงการแก้ไขหนี้สินตามที่กรมส่งเสริมสหกรณ์ขอความร่วมมือมาซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างร่างรายละเอียดนำไปสู่การปฏิบัติจริงเพื่อให้สมาชิกสหกรณ์ได้รับประโยชน์ที่แท้จริงต่อไป ทั้งนี้ ประธานฯ สสท. ได้รับข้อเรียกร้อง ที่เป็นปัญหา และอุปสรรคในการปฏิบัติ ทั้งจากสหกรณ์ฯ ตัวสมาชิกสหกรณ์ และหน่วยงานผู้เบิกจ่ายและหักเงินให้กับสหกรณ์ ไปหารือผู้ที่เกี่ยวข้องให้สามารถปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรม และ นายออน อาจกระโทก สมาชิกวุฒิสภา ฯ ซึ่งอยู่ในที่ประชุม ได้รับจะดำเนินการตามบทบาทหน้าที่ เสริมกับภารกิจของประธานสันนิบาตฯ เพื่อให้สามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็วอีกช่องทางหนึ่ง