Newstimestory

กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ หนุนครูบัญชีต้นแบบพัฒนาเกษตรกร “อยู่รอด ปลอดหนี้ ยกระดับภาคเกษตรไทย ด้วยบัญชีฟาร์ม”


กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เดินหน้าต่อยอดองค์ความรู้ด้านบัญชีสู่ครูบัญชีอาสา ถ่ายทอดความรู้สู่เกษตรกรและประชาชนทั่วประเทศ จัดโครงการประชุมสัมมนา ประจำปี 2566 เรื่อง “อยู่รอด ปลอดหนี้ ยกระดับภาคเกษตรไทย ด้วยบัญชีฟาร์ม” พร้อมมอบประกาศเกียรติคุณและเข็มเชิดชูเกียรติแก่เกษตรกรดีเด่น สาขาบัญชีฟาร์ม ประจำปี 2566 เพื่อสร้างขวัญกำลังใจ ยกย่องเชิดชูประกาศเกียรติคุณของครูบัญชีอาสา และหารือแลกเปลี่ยนแนวทางการถ่ายทอดความรู้ ขยายเครือข่ายครูบัญชีทั่วประเทศ สร้างความเข้มแข็งให้ภาคการเกษตร ระหว่างวันที่ 17 - 19 พฤษภาคม 2566 ณ โรงแรมสีดา แอคทิวิตี้ รีสอร์ท เขาใหญ่ – นครนายก จังหวัดนครนายก

นางสาวอัญมณี ถิรสุทธิ์ อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เปิดเผยว่า กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้ร่วมบูรณาการขับเคลื่อนการนำระบบบัญชีไปวางรากฐานในการสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรและสถาบันเกษตรกร เพื่อเพิ่มพูนรายได้เกษตรกรในระดับพื้นที่ ให้เกษตรกรได้นำองค์ความรู้ด้านบัญชีมาใช้วางแผนการประกอบอาชีพ วางแผนกิจกรรมทางการเกษตร มีความรู้และเข้าใจในการนำระบบบัญชีไปใช้ในการบริหารจัดการภาคการเกษตรได้ รู้รายรับ รายจ่าย รู้เวลาที่เหมาะสม โดยมีอาสาสมัครเกษตรด้านบัญชี หรือ ครูบัญชีอาสา เป็นเครือข่ายที่สำคัญในการทำหน้าที่ถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านบัญชีแก่เกษตรกรและประชาชนในทุกพื้นที่ ตลอดจนช่วยผลักดันงานนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการพัฒนาภาคการเกษตรและยกระดับเกษตรกรให้เข้มแข็ง 

โดยในปีงบประมาณ 2566 กรมฯ ได้กำหนดเป้าหมายในการพัฒนาศักยภาพของอาสาสมัครเกษตรให้มีความพร้อมที่จะถ่ายทอดความรู้ด้านบัญชี ผ่านโครงการส่งเสริมอาสาสมัครเกษตร ปีงบประมาณ  2566 เพื่อเพิ่มศักยภาพแกนนำเกษตรกรสู่การเป็นอาสาสมัครเกษตรด้านบัญชี (ครูบัญชี) ที่มีความพร้อมในการถ่ายทอดความรู้ด้านบัญชีและเป็นกลไกที่สำคัญในการผลักดันเครือข่ายทางบัญชีระดับชุมชน ตลอดจนพัฒนาศักยภาพให้มีความพร้อมในการถ่ายทอด ต่อยอด ขยายผลองค์ความรู้ด้านบัญชีให้กับประชาชนกลุ่มเป้าหมายสู่ระดับชุมชนอย่างยั่งยืน โดยตั้งเป้าหมายอาสาสมัครเกษตรด้านบัญชี ให้ได้รับการเสริมสร้างศักยภาพ พร้อมรับการพัฒนาสู่เกษตรกรปราดเปรื่อง (Smart Farmer) ด้านบัญชี จำนวน 1,200 ราย และ ร้อยละ 30 ของอาสาสมัครเกษตรด้านบัญชีที่ได้รับการอบรมเสริมสร้างศักยภาพ สามารถพัฒนาเป็นเกษตรกรปราดเปรื่อง (Smart Farmer) ด้านบัญชี ซึ่งได้เริ่มดำเนินการแล้วในพื้นที่สำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ที่ 1 - 10 และสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ทั่วประเทศ นอกจากการถ่ายทอดองค์ความรู้การจัดทำบัญชีรับ - จ่าย ในครัวเรือน บัญชีต้นทุนอาชีพแล้ว ยังต่อยอดความรู้การจัดทำบัญชีธุรกิจให้แก่ครูบัญชีอาสาไปถ่ายทอดต่อให้เกษตรกรในพื้นที่ ให้สามารถวิเคราะห์วางแผนการทำแผนธุรกิจของตนเองได้ 

ทั้งนี้ การทำบัญชีธุรกิจ สามารถสะท้อนข้อมูลด้านสภาพแวดล้อม ต้นทุน ตลาด ราคาผลผลิต ไปจนถึงมูลค่าสินค้าที่แปรผันในแต่ละช่วงเวลา ทำให้เกษตรกรมองเห็นช่องทางในการลดต้นทุนการผลิต ลดรายจ่าย ปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตและผลิตได้อย่างสมดุลตามกำลังของตนเอง สอดคล้องกับความต้องการของตลาด สามารถพัฒนาตนเองเป็นผู้ประกอบการธุรกิจเกษตรที่มีคุณภาพ เปลี่ยนแปลงจากการเกษตรแบบดั้งเดิมไปสู่การเกษตรสมัยใหม่ เพื่อสร้างความเข้มแข็งในระบบธุรกิจการเกษตรต่อไป

อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าวอีกว่า ครูบัญชี จึงนับเป็นกลไกที่สำคัญในการขับเคลื่อนงานส่งเสริมการจัดทำบัญชีรายบุคคลจากภาครัฐให้ขยายผลลงไปสู่ภาคประชาชนในพื้นที่ภาคเกษตร รองรับการขับเคลื่อนงานนโยบายที่สำคัญของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในการสร้างความเข้มแข็งอย่างยั่งยืนให้แก่เกษตรกรและประชาชน ทั้งการสร้างความเข้มแข็งให้แก่สถาบันเกษตรกรและเศรษฐกิจฐานราก ยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน เกษตรกรปรับตัวไม่ยึดติดกับวิธีการทำเกษตรแบบเดิม ๆ (Next Normal) ทำเกษตรสมัยใหม่เน้นการบริหารจัดการใช้เทคโนโลยี โดยใช้ Application ในการบันทึกข้อมูลมาวิเคราะห์วางแผนกิจการให้กลายเป็น (Smart Farming) ขับเคลื่อนกิจการภาคการเกษตรด้วยเทคโนโลยี มุ่งสู่การเป็น Smart Enterprises , Startup ขับเคลื่อนประเทศตอบสนองกับนโยบายการพัฒนาประเทศ Thailand 4.0 ล้วนแล้วแต่ต้องอาศัยอาสาสมัครเกษตรที่สำคัญอย่างครูบัญชีในการขับเคลื่อนในระดับพื้นที่ให้ประสบความสำเร็จเพื่อผลักดันสู่ความยั่งยืนในระดับประเทศ และเพื่อเป็นการเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจถึงแนวทางการพัฒนางานของครูบัญชีให้เกิดประสิทธิภาพ และเป็นเครือข่ายในการปฏิบัติงานที่เข้มแข็งและกว้างขวางยิ่งขึ้น กรมฯ จึงจัดการประชุมสัมมนา ประจำปี 256๖ เรื่อง “อยู่รอด ปลอดหนี้ ยกระดับภาคเกษตรไทย ด้วยบัญชีฟาร์ม” เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ ทักษะประสบการณ์ต่างๆ ให้แก่เจ้าหน้าที่ ผู้บริหาร ตลอดจนครูบัญชีในการพัฒนาทักษะการปฏิบัติงานและการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างกัน ประกอบด้วยกิจกรรม อาทิ การประชุมหารือเครือข่าย การดำเนินงานของคณะกรรมการชมรมครูบัญชีระดับประเทศ การเสวนา เรื่อง “การบูรณาการการทำงานเพื่อสร้างความเข้มแข็งของเกษตรกรไทย กับกระบวนทัศน์การพัฒนาสู่ BCG Model” โดย เกษตรกรดีเด่น สาขาบัญชีฟาร์ม การมอบนโยบายเกี่ยวกับ “ทิศทางการขับเคลื่อนงานส่งเสริมการจัดทำบัญชีฟาร์มจากภาครัฐสู่ภาคประชาชน ด้วยกลไกครูบัญชีอาสา” และการศึกษาดูงานโครงการเกษตรรวมใจ อันเนื่องมาจากพระราชดำริโรงเรียนทหารการสัตว์ กรมการสัตว์ทหารบก ตำบลพรหมมณี อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันและสอนแนะแก่เกษตรกรรายอื่น ตามแนวทางของความพอเพียงอีกด้วย 

นอกจากนี้ ภายในงานจัดให้มีการมอบประกาศเกียรติคุณและเข็มเชิดชูเกียรติแก่เกษตรกรดีเด่น สาขาบัญชีฟาร์ม ประจำปี 2566 รวม 77 ราย เพื่อสร้างขวัญกำลังใจ ยกย่องเชิดชูประกาศเกียรติคุณของครูบัญชีอาสาให้ปรากฏและยึดถือเป็นแนวทางการปฏิบัติงาน สำหรับเกษตรกรดีเด่น สาขาบัญชีฟาร์ม ชนะเลิศ ระดับประเทศ ประจำปี 2566 ได้แก่ นายบรรจง แสนยะมูล จากจังหวัดมหาสารคาม เป็นตัวอย่างของครูบัญชีอาสาที่ก้าวข้ามวิถีชีวิตเกษตรแบบเดิม นำบัญชีเป็นเครื่องมือในการวางแผนการดำเนินชีวิตและวางแผนการผลิตทางการเกษตรอย่างเป็นระบบ สามารถสร้างรายได้และลดต้นทุน มีฐานะที่มั่นคง พร้อมทั้งสร้างเครือข่ายคนทำบัญชีต่อยอดองค์ความรู้ด้านการจดบันทึกบัญชีและด้านการเกษตรให้แก่เกษตรกร นำไปปฏิบัติให้เกิดประโยชน์และเห็นผลจริง

ปัจจุบันมีครูบัญชีที่ขึ้นทะเบียนและปฏิบัติงานกับกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ จำนวน11,462 คน ปฏิบัติงานภายใต้ภารกิจกรมฯ และบูรณาการงานตามที่หน่วยงานภายในจังหวัดขอความร่วมมือ กรมฯ ได้กำหนดแผนการส่งเสริมการพัฒนาเครือข่ายด้านบัญชี ส่งเสริมการมีครูบัญชีประจำศูนย์การเรียนรู้ ให้บริการความรู้ด้านการจัดทำบัญชีแก่เกษตรกร พร้อมทั้งการขยายเครือข่ายชมรมครูบัญชีอาสาทั้งในระดับภาคและระดับประเทศ เพื่อให้ครูบัญชีได้มีการรวมกลุ่ม แลกเปลี่ยนแนวทางในการถ่ายทอดความรู้เพื่อสร้างเครือข่ายในชุมชน โดยยกระดับและพัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินงานให้มีความเข้มแข็งและกว้างขวางยิ่งขึ้น เพื่อเป็นเครือข่ายที่สำคัญในการช่วยขับเคลื่อนการยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรและสร้างความเข้มแข็งให้ภาคการเกษตรต่อไป นอกจากนี้ กรมฯ ได้กำหนดให้วันที่ 9 พฤษภาคมของทุกปีเป็น "วันครูบัญชีอาสา กรมตรวจบัญชีสหกรณ์” นับตั้งแต่วันที่ 9 พฤษภาคม 2565 เป็นต้นมา โดยเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม ที่ผ่านมา กรมฯ ได้เปิดตัวโครงการ “9 พฤษภาคม วันครูบัญชีอาสากรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ประจำปี 2566 ระดับจังหวัด” ในพื้นที่สำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ทั่วประเทศ โดยจัดกิจกรรมเผยแพร่ผลงานความสำเร็จของการขับเคลื่อนงานส่งเสริมการจัดทำบัญชีรายบุคคลของอาสาสมัครเกษตรด้านบัญชี พร้อมสร้างการรับรู้และความเข้าใจถึงความสำคัญเกี่ยวกับการเสริมสร้างศักยภาพด้านการเงินการบัญชีสู่ภาคประชาชนผ่านเครือข่ายอาสาสมัครเกษตรด้านบัญชี และการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการให้ความสำคัญต่อกระบวนการถ่ายทอดความรู้ด้านการจัดทำบัญชีให้แก่เกษตรกร เยาวชน และประชาชนทั่วไป และเพื่อเป็นการเชิดชูเกียรติแก่อาสาสมัครเกษตรด้านบัญชี ซึ่งถือเป็นตัวแทนภาคประชาชนของกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ในการปฏิบัติงานส่งเสริมการจัดทำบัญชีอีกด้วย

ใหม่กว่า เก่ากว่า