กรมชลประทาน ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเร่งระบายน้ำช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ประสบปัญหาน้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง จนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ตามนโยบายของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า กรมชลประทาน โดยสำนักเครื่องจักรกลร่วมกับโครงการชลประทานทั่วประเทศเร่งเข้าไปช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ประสบปัญหาน้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง นำเครื่องสูบน้ำและเครื่องผลักดันน้ำไปติดตั้งตามจุดต่าง ๆ เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่พร้อมรองรับน้ำฝนในระยะต่อไป ช่วยลดผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชนให้มากที่สุด ดังนี้
จังหวัดร้อยเอ็ด ได้ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำบริเวณท้ายเขื่อนร้อยเอ็ด จำนวน 30 เครื่อง และบริเวณใต้สะพานค้อเหนือนางาม อ.เสลภูมิ จำนวน 15 เครื่อง นอกจากนี้ ยังได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำอีก 5 เครื่อง ที่ท้าย ปตร.ห้วยดางเดียว อ.ทุ่งเขาหลวง เพื่อเร่งระบายน้ำที่ท่วมขัง
จังหวัดนนทบุรี ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ขนาด 12 นิ้ว จำนวน 1 เครื่อง บริเวณข้างวัดตาล (คลองบางตะไนย์) ต.บางตะไนย์ อ.ปากเกร็ด สามารถสูบน้ำได้วันละ 23,700 ลบ.ม.
จังหวัดฉะเชิงเทรา ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ขนาด 42 นิ้ว จำนวน 3 เครื่อง บริเวณประตูระบายน้ำคลอง 19 ต.โยธะกา อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อเร่งการระบายน้ำลงแม่น้ำบางปะกง สามารถสูบน้ำได้วันละ 831,600 ลบ.ม. และดำเนินการเดินเครื่องสูบน้ำ จำนวน 4 เครื่อง ณ โครงการเพิ่มประสิทธิภาพสถานีสูบน้ำปากตะคลอง ต.ท่าสะอ้าน อ.บางปะกง โดยให้สลับการเปิดครั้งละ 1 เครื่อง ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเพิ่มอัตราและเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำจากคลองสำโรงลงสู่แม่น้ำบางปะกง
กรมชลประทาน ยังคงเดินหน้านำเครื่องจักร เครื่องมือต่าง ๆ เข้าไปช่วยเหลือประชาชนที่ประสบกับปัญหาน้ำท่วมอย่างเต็มกำลัง จนกว่าจะสิ้นสุดฤดูฝน ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด หากหน่วยงานหรือประชาชนต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อได้ที่โครงการชลประทานใกล้บ้าน หรือโทรสายด่วน 1460 ได้ตลอดเวลา