กรมชลประทาน ระดมเครื่องจักร เครื่องสูบน้ำ เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมในเขตรอยต่อกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออกและปริมณฑล ลงสู่ทะเลอ่าวไทย ตามข้อสั่งการของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อบรรเทาความเดือนร้อนให้ประชาชนโดยเร็วที่สุด
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ฝนตกต่อเนื่องในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลในขณะนี้ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังพื้นที่ลุ่มต่ำเป็นบริเวณกว้างในพื้นที่ฝั่งตะวันออกของกรุงเทพมหานคร กรมชลประทาน ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติม เพื่อเสริมศักยภาพในการระบายน้ำออกสู่ทะเลได้เร็วยิ่งขึ้น ดังนี้
ที่จังหวัดสมุทรปราการ ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำระบบ Hydroflow เพิ่มเติม 2 เครื่อง ที่สถานีสูบน้ำนางหงษ์ ตำบลคลองด่าน อำเภอบางบ่อ จากเดิมที่ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ขนาด 3 ลบ.ม./วินาที ไว้แล้ว 6 เครื่อง เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำออกสู่อ่าวไทยให้เร็วยิ่งขึ้น
ด้านจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่ได้มีการรับน้ำต่อจากพื้นที่น้ำท่วมขังเขตลาดกระบัง ได้มีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำระบบ Hydroflow ขนาด 2 ลบ.ม./วินาที จำนวน 2 เครื่อง ที่สถานีสูบน้ำท่าไข่ 1 ตำบลท่าไข่ อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา เพื่อเร่งระบายน้ำในพื้นที่ลงสู่แม่น้ำบางปะกง และระบายออกสู่อ่าวไทยตามลำดับ
ส่วนที่จังหวัดนครนายก ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ขนาด 3 ลบ.ม / วินาที จำนวน 6 เครื่อง และขนาด 12 นิ้ว จำนวน 4 เครื่อง รวมทั้งติดตั้งเครื่องสูบน้ำระบบ Hydroflow ขนาด 30 นิ้ว อีก 2 เครื่อง ที่บริเวณสถานีสูบน้ำสมบูรณ์ อ.องครักษ์ ช่วยเร่งระบายน้ำในคลองหกวาสายล่าง ซึ่งรับน้ำมาจากพื้นที่ชั้นในของกรุงเทพมหานครและปทุมธานี ก่อนระบายลงสู่แม่น้ำนครนายกในลำดับถัดไป ช่วยลดปริมาณน้ำที่จะไหลผ่านกรุงเทพมหานคร และบรรเทาปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มต่ำในเขตจังหวัดปทุมธานี
ทั้งนี้ กรมชลประทาน ยังคงเดินหน้าช่วยเหลือพื้นที่ประสบปัญหาน้ำท่วมขังอย่างต่อเนื่อง จนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ หรือจนกว่าจะสิ้นฤดูฝน เพื่อบรรเทาปัญหาที่เกิดกับประชาชนให้ได้มากที่สุด หากหน่วยงานหรือประชาชนต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อได้ที่โครงการชลประทานใกล้บ้าน หรือโทรสายด่วน 1460 ได้ตลอดเวลา