นายสมคิด จันทมฤก อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า วันนี้(20 สค. 65) งาน “ศิลปาชีพ ประทีปไทย OTOP ก้าวไกลด้วยพระบารมี” ประจำปี 2565 ที่กรมการพัฒนาชุมชนจัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่มีต่อการอนุรักษ์และสืบสานภูมิปัญญาของคนไทย รวมทั้งเพื่อประชาสัมพันธ์การดำเนินงานโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ระหว่างวันที่12-20 สิงหาคม 2565 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพค เมืองทองธานีตั้งแต่เวลา 10.00 - 21.00 น. ณ อาคาร ชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานีได้จัดขึ้นวันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้ว ซึ่งตลอด 8 วันที่ผ่านมาได้รับความสนใจจากประชาชนในการเข้าเยี่ยมงานอย่างคึก โดยมีประชาชนเข้าเยี่ยมชมงานจำนวน113,378 คนมียอดจำหน่ายรวมทั้งสิ้น 397.23 ล้านบาท เฉพาะวันที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมาเพียงวันเดียวทำยอดขายได้มากถึง 59 ล้านบาท โดยสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่มียอดจำหน่ายสูงสุดในรอบ 8 วัน คือ โซนผ้าไทยมียอดจำหน่ายถึง 159 ล้านบาท รองลงมาเป็นสินค้าโซนของใช้ 7 ล้าน โซนอาหารและชวนชิม 7.4 ล้าน และสินค้าโซนศิลปินโอทอป 3.3 ล้านตามลำดับ
เพื่อเป็นการสนับสนุนสินค้าชุมชน อยากเชิญชวนเลือกซื้อเลือกชมสินค้าและผลิตภัณฑ์หัตถศิลป์อันทรงคุณค่าจากมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง อาทิ ผ้าไหม, ผ้าฝ้าย, ผ้าชาวเขา, ผ้าปัก, จักสานไม้ไผ่, จักสานย่านลิเภา, กระจูด, ไม้แกะสลัก, เซรามิก, ดอกไม้ประดิษฐ์และสินค้าในบูทอื่น ๆ ซึ่งวันนี้มีสินค้าและผลิตภัณฑ์หลายบูทที่ประกาศลดแหลก ไม่ขนของกลับ อาทิ บูทศิลปาชีพ ผักสด ผลไม้ OTOP ชวนชิม และสินค้าในโซนอาหาร เช่น ข้าวสาร กระเทียม หอมแดง ผักผลไม้ เฟอร์นิเจอร์ไม้ เสื้อผ้า ผ้าไทย เครื่องประดับ ของใช้ ของประดับตกแต่งบ้าน สมุนไพร ซึ่งพร้อมใจกันลดราคาไม่ขนของกลับบ้านกัน รวมทั้งมีสิทธิ์ ลุ้นทองคำหนัก 1 บาท 7 เส้น มูลค่ากว่า 200,000 บาท สำหรับผู้ที่ซื้อของ 500 บาท แลกคูปอง ได้ 1 สิทธิ์ เขียน ชื่อ ที่อยู่ จับรางวัล รอบ 19.00 น เป็นต้น ใครเป็น แฟนพันธุ์แท้โอทอปห้ามพลาดอย่างเด็ดขาด
“การจัดงานมาถึงวันสุดท้ายแล้ว ผมขอเชิญชวนทุกท่านมาชม ชิม ช้อป และร่วมภาคภูมิใจไปกับผลิตภัณฑ์จากภูมิปัญญาไทย โดยเฉพาะผ้าไทย เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยสร้างโอกาส และสร้างรายได้ให้กับผู้ผลิตผู้ประกอบการ OTOP โดยงานจะมีไปถึง 20 สิงหาคมนี้ ที่อาคารชาเลนเจอร์ 1 – 3 เมืองทองธานี ครับ” นายสมคิด จันทมฤก กล่าวทิ้งท้าย