วันที่ 29 ก.ย.64 นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานและร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) โครงการส่งเสริมและสนับสนุนการนำมาตรฐานสินค้าเกษตร (มกษ.) ไปปฏิบัติใช้สำหรับตลาดกลาง ระหว่าง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) และ สมาคมการค้าตลาดกลางค้าส่งสินค้าเกษตรไทย (TAWMA) โดยมีนายพิศาล พงศาพิชณ์ เลขาธิการ มกอช. และนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ นายกสมาคมการค้าตลาดกลางค้าฯ เป็นผู้ลงนาม ณ สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ
นายประภัตร โพธสุธน กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบดูแลด้านเกษตรกรรมของประเทศ รู้สึกภูมิใจและเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่มีส่วนช่วยสนับสนุนให้ตลาดกลางสินค้าเกษตรไทย ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในระบบห่วงโซ่คุณภาพและความปลอดภัยของสินค้าเกษตร โดยเฉพาะการบริหารจัดการสินค้าเกษตรเข้าสู่ตลาด เพื่อให้สินค้าคงคุณภาพ จนถึงปลายทางผู้บริโภค โดยการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในครั้งนี้ ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี ซึ่งการดำเนินการดังกล่าว จะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการผลิตและจัดการการค้าสินค้าเกษตรของประเทศ ให้มีคุณภาพ ปลอดภัย ได้รับความเชื่อถือ และนำพาประเทศให้ก้าวสู่การเป็นตลาดชั้นนำที่มีคุณภาพและมาตรฐานในระดับสากล
ทั้งนี้ มีแผนการดำเนินงานประกอบด้วย ระยะ Quick win คือแผนปฏิบัติการระยะเร่งด่วน โดย มกอช. และสมาคมฯ ได้กำหนดให้มีการจัดพิธีลงนามในวันนี้ รวมถึงการอบรมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ให้มีความรู้ ความเข้าใจ มาตรฐานสินค้าเกษตรและระบบการรับรอง รวมถึงระบบการตรวจสอบย้อนกลับ การดำเนินงานในระยะที่ 1 การจัดทำคู่มือปฏิบัติงานและพัฒนาต้นแบบการจัดการสินค้าเกษตร ตามมาตรฐาน โดยนำร่องที่ “ตลาดไท” ซึ่งเป็นตลาดกลางค้าส่งขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง และมีความสำคัญมากต่อห่วงโซ่อาหารและสินค้าเกษตรของประเทศ การดำเนินงานในระยะที่ 2 เป็นการจัดทำมาตรฐานการจัดการความปลอดภัยและคุณภาพตลาดกลางสินค้าเกษตร และการดำเนินงานในระยะที่ 3 เป็นการเตรียมความพร้อมระบบการตรวจสอบรับรองมาตรฐานและจัดทำระบบ Supply Chain จากนั้นจะนำต้นแบบจาก “ตลาดไท” ขยายผลไปยังตลาดกลางสินค้าเกษตรแห่งอื่นเพิ่มเติมในปีถัดไป
ด้านนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ กล่าวว่า สมาคมฯ ให้ความสำคัญในการพัฒนามาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารเพื่อใช้เป็นสื่อกลางระหว่างผู้ผลิต ผู้ซื้อ ผู้ขาย ให้เกิดความมั่นใจในคุณภาพสินค้าเกษตร ซึ่งปัจจุบัน สมาคมฯ มีสมาชิกตลาดกลางค้าส่งทั่วประเทศ 17 แห่ง ในการกระจายสินค้าเกษตร โดยเฉพาะสินค้าประเภทผักและผลไม้จำนวนมากที่ต้องกระจายผ่านตลาดกลางค้าส่งเหล่านี้ จึงเล็งเห็นถึงความสำคัญในเรื่องคุณภาพ มาตรฐาน และความปลอดภัยของสินค้าเกษตร ดังนั้น ทางสมาคมฯ จึงมีความยินดีและพร้อมที่จะสนับสนุน
"การนำมาตรฐานสินค้ามาปฏิบัติใช้สำหรับตลาดกลาง โดยได้ร่วมมือกับ มกอช. ในการพัฒนาตลาดกลางต้นแบบด้านการจัดการความปลอดภัยและคุณภาพตลาดสินค้าเกษตร โดยผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายจะได้รับประโยชน์ร่วมกัน เช่น ผู้ซื้อจะได้รับสินค้าเกษตรที่ได้มาตรฐานตรงกับความต้องการ ผู้ขายมีความมั่นใจในสินค้าเกษตร ส่งผลให้การซื้อขายมีความสะดวกรวดเร็ว รวมทั้งตลาดมีพื้นที่จัดสรรและหมุนเวียนเพื่อการซื้อขายสินค้าเกษตรมากขึ้น ภายใต้ความเป็นธรรมในการค้าขายสินค้าเกษตร รวมถึงเป็นการสร้างความเชื่อมั่นทางด้านอาหารในช่วงสถานการณ์โรคติดเชื้อโควิด-19 อีกด้วย"นายประดิษฐ์ กล่าว