สทนช. ปูฐานความพร้อมก่อนตั้งไข่โครงการเจาะอุโมงค์ผันน้ำเขื่อนป่าสักฯ -ลำตะคอง หวังแก้วิกฤติการขาดแคลนน้ำ โคราชระยะยาวเร่งคลอดผลการศึกษาความเหมาะสมและการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมทุกมิติ หวังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้เป็นบรรทัดฐานก่อนเริ่มแผนงานก่อสร้าง
ดร.สมเกียรติ ประจำวงษ์ |
ดร.สมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าโครงการเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนเขื่อนลำตะคอง จังหวัดนครราชสีมา ณ กองการสัตว์และเกษตรกรรมที่ 2 กรมการสัตว์ทหารบก ตำบลจันทึก อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นจุดปลายอุโมงค์ผันน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ไปยังเขื่อนลำตะคองและเป็นพื้นที่จัดการวัสดุขุดจากอุโมงค์ว่า รัฐบาลมีความพยายามในการเพิ่มขีดความสามารถในการเก็บกักน้ำในแหล่งน้ำต่างๆ เพิ่มขึ้น แต่ต้องพิจารณาถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในทุกมิติอย่างรอบด้านก่อนเริ่มการก่อสร้างโครงการ เช่นเดียวกับโครงการเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนเขื่อนลำตะคองซึ่งเป็นการผันน้ำจากลุ่มน้ำข้างเคียง (ลุ่มน้ำป่าสัก) เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำในระยะยาวในจังหวัดนครราชสีมา คาดว่าจะมีความต้องการใช้น้ำเพิ่มขึ้นจาก 336 เป็น 367 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี โดยการศึกษาที่ผ่านมาได้วิเคราะห์ปริมาณน้ำต้นทุน ความต้องการใช้น้ำและการพัฒนาแหล่งน้ำในรูปแบบต่างๆ เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนในลุ่มน้ำลำตะคอง รวมทั้งเปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสีย ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ค่าลงทุนและค่าใช้จ่ายในการผันน้ำหรือจุดคุ้มทุนพบว่าทางเลือกการผันน้ำจากอ่างเก็บน้ำป่าสักฯ ไปยังอ่างเก็บน้ำลำตะคองมีความเป็นไปได้มากที่สุด
ดร.สมเกียรติ กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนเขื่อนลำตะคอง ใช้ระยะเวลาก่อสร้างประมาณ 4 ปี หากก่อสร้างแล้วเสร็จจะส่งผลให้มีปริมาณน้ำผันเพิ่มขึ้น 60 ล้านลูกบาศก์เมตร/ปี เพื่อใช้ในการอุปโภคบริโภค เพื่อธุรกิจและอุตสาหกรรม เพื่อการทำเกษตรครอบคลุมพื้นที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำตะคอง 154,195 ไร่ ครัวเรือนได้รับประโยชน์ 77,600 ครัวเรือน และรายได้ต่อครัวเรือนเพิ่มขึ้น 14,400 บาท/ปี ซึ่งการผันน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี จะทำในช่วงฤดูน้ำหลาก (ก.ค. – ต.ค.) เท่านั้น และผันน้ำส่วนเกินของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ไปยังเขื่อนลำตะคอง 60 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยมีเกณฑ์กำหนดว่าหากปริมาณน้ำในเขื่อนป่าสักมีระดับลดลงเกิน 1 เมตรจากจุดสูงสุดของเส้นระดับควบคุมปริมาณน้ำ จะหยุดผันน้ำทันที ซึ่งโครงการเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนเขื่อนลำตะคอง ประกอบด้วย สถานีสูบน้ำป่าสักชลสิทธิ์ สถานีสูบน้ำเพิ่มแรงดัน (วัดพุทธานนท์) อุโมงค์ผันน้ำยาวประมาณ 20 กิโลเมตร และระบบท่อผันน้ำจากสถานีสูบน้ำป่าสัก-สถานีสูบน้ำเพิ่มแรงดัน-ปากอุโมงค์ และท่อผันน้ำจากปลายอุโมงค์-อ่างเก็บน้ำลำตะคอง ความยาวท่อผันน้ำประมาณ 23 กิโลเมตร รวมความยาวการผันน้ำทั้งสิ้น 43 กิโลเมตร